เวียดนาม U.23 ท้าทายเกาหลีใต้ U.23 ชิงแชมป์ Panda Cup 2025 หลังพ่ายมาตลอด 11 ปี

เมื่อเวลา 14:30 น. วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2025 ที่สนามฟุตบอลในจีน ทีมฟุตบอลเยาวชนเวียดนาม U.23 จะลงสนามชิงแชมป์ Panda Cup 2025 กับทีม เกาหลีใต้ U.23 ในเกมที่แฟนบอลทั้งเอเชียจับตาอย่างจับหัวใจ — เพราะนี่คือโอกาสครั้งแรกในรอบ 11 ปีที่เวียดนามจะได้ลุ้นแชมป์ใหญ่ในระดับ U.23 หลังจากเคยแพ้เกาหลีใต้มาทุกครั้งในประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ที่กดดัน: แพ้มาตลอด 11 ปี

สถิติหัวใจหายจาก AiScore.com บอกชัดเจน: ใน 4 นัดที่ผ่านมา เกาหลีใต้ U.23 ชนะ 3 ครั้ง ยิงไป 7 ประตู (ค่าเฉลี่ย 1.8 ประตูต่อนัด) ส่วนเวียดนาม U.23 ยังไม่เคยชนะเลย ยิงได้แค่ 3 ประตู (0.8 ประตูต่อนัด) และมีเพียง 1 นัดที่เสมอ

แต่บางแหล่งอย่าง SoccerPunter.com ระบุว่ามีการแข่งขัน 4 นัด ชนะ 1 นัด — ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลหลัก นี่คือจุดที่ทำให้แฟนบอลเวียดนามต้องตั้งคำถาม: สถิติที่เราเชื่อ...คือจริงหรือแค่ภาพลวงตา?

การแข่งขันล่าสุดก่อนหน้านี้คือเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ระหว่างทีม U.22 ของทั้งสองชาติ — แม้จะไม่มีผลการแข่งขันชัดเจน แต่ความใกล้ชิดของเกมนี้กับเกมชิงแชมป์ครั้งนี้ บ่งบอกว่าทั้งสองทีมกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความกดดัน

จุดเปลี่ยน: นักเตะคนสำคัญที่ทุกคนจับตา

ในรายงานจาก vietnam.vn/en ชื่อของ คิม มยอง-จุน ถูกยกขึ้นมาอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้เล่นหลักที่มีอิทธิพลต่อการยิงประตูของทีมเกาหลีใต้

นี่ไม่ใช่แค่ชื่อธรรมดา — นี่คือผู้เล่นที่เคยทำประตูได้ในเกมกระชับมิตรเมื่อไม่กี่วันก่อน และเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างระบบการเล่นแบบดุดันกับการส่งบอลเร็วของทีมเกาหลีใต้

ฝั่งเวียดนาม แม้จะไม่มีชื่อที่โดดเด่นเท่า แต่กลยุทธ์ที่โค้ชทีมเลือกใช้คือ “แรงและบอลสูง” — ซึ่งเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อจุดอ่อนของเกาหลีใต้ที่มักถูกกดดันในช่วงท้ายเกมจากความเหนื่อยล้าของแนวรับ

ทำไมเกมนี้ถึงใหญ่กว่าแค่ถ้วยรางวัล?

เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของถ้วย Panda Cup 2025 — มันคือการพิสูจน์ตัวตน

เวียดนามเคยมีช่วงเวลาที่แฟนบอลรู้สึกว่า “เราทำได้” — ตอนที่ทีมชุดใหญ่ชนะญี่ปุ่นใน Asian Cup 2019 แต่ทุกครั้งที่เจอกับเกาหลีใต้ในระดับเยาวชน ทุกอย่างกลับหายไป

แม้แต่การแข่งขันใน Asian Games ปี 2014 ที่มีการระบุว่าเป็น “U.23 Women” — ซึ่งน่าสงสัยว่าเป็นข้อมูลผิดพลาด — แต่ก็ยังสะท้อนว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองทีมนี้มีมานานกว่าที่เราคิด

การแข่งขันครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การชิงแชมป์ — มันคือการปลดล็อกความเชื่อที่ว่า “เราไม่สามารถชนะเขาได้”

สัญญาณจากโซเชียล: ความหวังที่กลายเป็น “แผ่นดินไหว”

บน YouTube วิดีโอชื่อ “U23 Vietnam vs. U23 Korea: A Great Earthquake at Panda Cup 2025!” ที่สร้างโดยช่อง Soccer News Channel ได้รับการแชร์กว่า 2 ล้านครั้งใน 48 ชั่วโมง

คำว่า “Great Earthquake” — หรือในภาษาไทยว่า “แผ่นดินไหว” — ไม่ใช่การใช้คำเล่นๆ

มันคือการสื่อสารว่า ถ้าเวียดนามชนะ นี่จะเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแผนที่ฟุตบอลเอเชีย — เหมือนกับที่ทีมชาติไทยเคยทำได้เมื่อปี 2007 ที่เอาชนะญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ทุกคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้

สื่อเวียดนามเรียกมันว่า “โอกาสสุดท้ายของรุ่นนี้” — เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่จะหมดอายุในอีก 1 ปีครึ่ง และจะไม่มีโอกาสกลับมาอีก

สิ่งที่ต้องจับตาในวันแข่ง

• การเล่นแบบดุดันของเวียดนาม — พวกเขาจะกล้าเล่นบอลสูงกับแนวรับเกาหลีที่สูงกว่าหรือไม่?
• การควบคุมจังหวะของเกาหลี — ถ้าพวกเขาเล่นช้าและควบคุมบอลได้ดี ทีมเวียดนามจะรับมือได้ไหม?
• ความมั่นใจของผู้รักษาประตูเวียดนาม — ที่เคยเสียประตูจากลูกยิงไกลในเกมก่อนหน้า
• การเปลี่ยนตัวในช่วง 20 นาทีสุดท้าย — ใครจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม?

โค้ชทีมเวียดนามเคยพูดในสัมภาษณ์ว่า “เราไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเราคิดยังไง — เราแค่อยากให้แฟนบอลรู้สึกว่า วันนี้เราไม่ได้แพ้เพราะไม่เก่ง...เราแพ้เพราะไม่มีโอกาส”

วันนี้...โอกาสอยู่ตรงหน้า

พื้นหลังของ Panda Cup: ทัวร์นาเมนต์ที่คนไม่ค่อยรู้จัก

Panda Cup 2025 เป็นการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนที่จัดขึ้นในจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทีมเยาวชนเอเชีย — แต่ไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับโลก

มันถูกจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2018 โดยมีทีมจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเข้าร่วม — แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่มีทีมจากเวียดนามและเกาหลีใต้เข้าชิงชนะเลิศ

สถานที่จัดงานยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่จากภาพถ่ายจากผู้สื่อข่าว คาดว่าเป็นสนามในเมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการอนุรักษ์แพนด้า และมีสนามฟุตบอลที่ทันสมัยที่สุดในมณฑลส่านซี

แม้จะไม่ใช่การแข่งขันระดับโลก แต่สำหรับเวียดนาม...มันคือเวทีที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของผู้เล่นเหล่านี้